AMD vs Nvidia 2 คู่แข่งเติบโตตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แล้วตลาดการ์ดจอน่าลงทุนยังไง ?

AMD vs Nvidia 2 คู่แข่งเติบโตตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แล้วตลาดการ์ดจอน่าลงทุนยังไง ?

ปกติการใช้งานคอมพิวเตอร์เราต้องมีส่วนประกอบมากมายเพื่อประกอบขึ้นมาเป็นคอมพิวเตอร์ที่เราได้ใช้กันอยู่ทุกๆ วันนี้ วันนี้ Robowealth ชวนมาดู การขาดตลาดของชิปเซต GPU หรือที่เรียก ๆ กันว่าการ์ดจอเนี่ย สาเหตุมาจากอะไร แล้วส่งผลให้มูลค่าตลาดการ์ดจอเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลใน 2 – 3 ปีที่ผ่านมากันเลยทีเดียว มูลค่าตลาด GPU ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 79,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นในปี 2025 เป็นมูลค่าตลาด 112,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ต.ค. 2020) แน่นอนอยู่แล้วว่าบริษัทการ์ดจอที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด คือ Intel อยู่ที่ 68% AMD อยู่ที่ 17% และ Nvidia อยู่ที่ 15% (ข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ณ วันที่ 4 มิ.ย. 2021) โดยเจ้าตลาดอย่าง Intel […]

ปกติการใช้งานคอมพิวเตอร์เราต้องมีส่วนประกอบมากมายเพื่อประกอบขึ้นมาเป็นคอมพิวเตอร์ที่เราได้ใช้กันอยู่ทุกๆ วันนี้

วันนี้ Robowealth ชวนมาดู การขาดตลาดของชิปเซต GPU หรือที่เรียก ๆ กันว่าการ์ดจอเนี่ย สาเหตุมาจากอะไร แล้วส่งผลให้มูลค่าตลาดการ์ดจอเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลใน 2 – 3 ปีที่ผ่านมากันเลยทีเดียว

มูลค่าตลาด GPU ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 79,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นในปี 2025 เป็นมูลค่าตลาด 112,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ต.ค. 2020)

แน่นอนอยู่แล้วว่าบริษัทการ์ดจอที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด คือ Intel อยู่ที่ 68% AMD อยู่ที่ 17% และ Nvidia อยู่ที่ 15% (ข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ณ วันที่ 4 มิ.ย. 2021)

โดยเจ้าตลาดอย่าง Intel สามารถทำรายได้ในปี 2020 ได้มากที่สุดถึง 77,867 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังมีแบรนด์ที่ผลิตและเติบโตอย่างก้าวกระโดดเลย คือ AMD และ Nvidia เลยพามาดูการเติบโตของ 2 บริษัทคู่แข่งของ Intel กัน แม้ว่าจะยังมี Market Share สู้เบอร์หนึ่งไม่ได้ แต่ทั้ง 2 แบรนด์นี้กลับทำอัตราผลตอบแทนในปีที่ผ่านมาสูงแซงเจ้าตลาดเข้าซะแล้ว

 

ความน่าลงทุนของบริษัทที่ผลิตส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ GPU

การเติบโตของอุตสาหกรรมเกม AR และ VR มีการพัฒนาและสร้าง Solution เพื่อให้เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันการผลิต GPU ให้มีการแสดงภาพเสมือนจริงให้ดีขึ้น และความต้องการใช้เทคโนโลยีมีแนวโน้มเติบโต

การเพิ่มขึ้นของประชากร ทำให้มีการใช้ IoT มากขึ้น แน่นอนว่าการใช้อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นตลอดเวลารอบตัวเรา อีกทั้งการที่ต้อง WFH ก็ทำให้เกิดความต้องการซื้อสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดนเฉพาะคอมพิวเตอร์พีซีและ โน้ตบุ๊กที่จำเป็นสำหรับคนในยุคปัจจุบัน

นอกจากนี้เหตุผลที่ทำให้สินค้าขาดตลาด ในขณะที่ความต้องการของประชากรเพิ่มขึ้นคือการ Lockdown ของเมืองสำคัญต่าง ๆ ทำให้ต้องปิดโรงงานผลิตชั่วคราว เพื่อลดการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้า และส่งผลต่อ Supply Chain

อีกทั้งเทรนด์การขุดเหรียญดิจิทัล ที่ต้องใช้ GPU ที่มีความสามารถสูงเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เกิดการขาดแคลน GPU เพิ่มขึ้น

เหตุผลเหล่านี้ทำให้ GPU มีราคาที่แพงขึ้น แตะราคาหลายพัน หลายแสนบาท ตามประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิค เห็นได้ชัดเจนจากการที่นักลงทุนหลายคนได้ลงทุนในบริษัทผลิต GPU เพิ่มขึ้น และทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

Source: Statista, Alliedmarketresearch, Benchmarks