Robinhood แอปเทรดหุ้นไม่คิดค่าคอม มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท น่าลงทุนแค่ไหน ?

Robinhood แอปเทรดหุ้นไม่คิดค่าคอม มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท น่าลงทุนแค่ไหน ?

วันนี้แอดพาไปทัวร์ดูแอปเทรดหุ้นออนไลน์ตัวดังที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันขณะนี้ Robinhood หรือ HOOD บริษัทสตาร์ทอัพด้านอุตสาหกรรม FinTech ที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแดค (Nasdaq) ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วจนถึงตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ? ไปดูกันเลย หลังจากเจ้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว มูลค่าบริษัทก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีมูลค่าอยู่ที่ 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว โดยราคาจำหน่ายหุ้นละ 38 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านมา 2 สัปดาห์ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 55 ดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ส.ค. 2564) แอปเทรดหุ้นตัวดังนี้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนที่กำลังสนใจลงทุนด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี FinTech เและคาดหวังไว้ว่าจะเป็นผู้นำ FinTech ต่อไปในอนาคต   ไปดูความน่าสนใจลงทุนในแอปตัวดังนี้กัน ธุรกิจหลักของ Robinhood ให้บริการเทรดหลักทรัพย์โดยไม่มีค่าธรรมเนียม บนแพลตฟอร์มเว็บและมือถือ สามารถซื้อขายทั้งหุ้น กองทุน (ETF) ออปชัน (Options) และเหรียญดิจิทัล  (Cryptocurrencies) ซึ่ง Robinhood จะนำคำสั่งซื้อขายนี้ ไปขายให้โบรกเกอร์อีกต่อหนึ่ง รวมถึงมีรายได้อีกส่วนจากการขายบริการพรีเมียมบางอย่างให้ลูกค้า […]

วันนี้แอดพาไปทัวร์ดูแอปเทรดหุ้นออนไลน์ตัวดังที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันขณะนี้ Robinhood หรือ HOOD บริษัทสตาร์ทอัพด้านอุตสาหกรรม FinTech ที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแดค (Nasdaq) ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วจนถึงตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ? ไปดูกันเลย

หลังจากเจ้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว มูลค่าบริษัทก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีมูลค่าอยู่ที่ 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว โดยราคาจำหน่ายหุ้นละ 38 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านมา 2 สัปดาห์ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 55 ดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ส.ค. 2564) แอปเทรดหุ้นตัวดังนี้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนที่กำลังสนใจลงทุนด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี FinTech เและคาดหวังไว้ว่าจะเป็นผู้นำ FinTech ต่อไปในอนาคต

 

ไปดูความน่าสนใจลงทุนในแอปตัวดังนี้กัน

ธุรกิจหลักของ Robinhood ให้บริการเทรดหลักทรัพย์โดยไม่มีค่าธรรมเนียม บนแพลตฟอร์มเว็บและมือถือ สามารถซื้อขายทั้งหุ้น กองทุน (ETF) ออปชัน (Options) และเหรียญดิจิทัล  (Cryptocurrencies) ซึ่ง Robinhood จะนำคำสั่งซื้อขายนี้ ไปขายให้โบรกเกอร์อีกต่อหนึ่ง รวมถึงมีรายได้อีกส่วนจากการขายบริการพรีเมียมบางอย่างให้ลูกค้า

โดยบริษัทได้รับรายได้จากธุรกรรมทางการเงิน (Transaction-based) มากถึง 80% ด้วยการขายคำสั่งซื้อขายให้โบรกเกอร์รายอื่น ๆ ดำเนินการ เพื่อไปใช้ทำกำไรส่วนต่างราคา

ดอกเบี้ยที่นักลงทุนฝากไว้ (Net Interest) 12% ที่นักลงทุนนำมาฝากไว้ใน Wallet แต่ยังไม่เกิดการซื้อขาย ซึ่งทางบริษัทจะนำเงินส่วนนั้นมาลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำต่าง ๆ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยชดเชยแทนค่าธรรมเนียมซื้อขายฟรี

และรายได้อื่น ๆ อีก 8% อย่างค่าสมัครสมาชิกบริการพรีเมียม เช่น การกู้ยืมเงิน การเข้าถึงข่าวสารอัปเดตแบบ Subscription เป็นต้น

 

บทบาทของ Robinhood ต่อตลาดหลักทรัพย์

Robinhood มักจะเข้ามามีบทบาทในเหตุการณ์สำคัญของตลาดการลงทุนเสมอ โดยเฉพาะการซื้อขายหุ้นของบริษัท GameStop Corp. (GME) และ AMC Entertainment Holdings Inc. (AMC) ที่มาการเทรดจนราคาสูงขึ้นและตกลงมาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน

 

ทำไม Robinhood ถึงได้เป็นแอปเทรดอันดับ 1 ของสหรัฐฯ ?

  1. เทรดหุ้นโดยไม่มีค่าธรรมเนียม เนื่องจากหลาย ๆ บริษัททางการเงินตอนนี้ยังมีการคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์โดยเฉลี่ย 200 บาทต่อการซื้อขาย แต่ Robinhood ได้ทลายข้อจำกัดการเข้าถึงการลงทุนนี้ได้ แสดงให้เห็นถึงการ Disrupt ในวงการโบรกเกอร์
  2. ความปลอดภัย Robinhood ได้การันตีถึงการรักษาข้อมูลทางการเงินที่มีความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นจากผู้สนับสนุนอย่างธนาคาร FDIC ที่มีความน่าเชื่อถือ
  3. โปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่มีใครที่มีเส้นสายจะสามารถฉ้อโกง หรือ ได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อขายสินทรัพย์ก่อนคนอื่น
  4. การให้บริการลูกค้าอันดับ 1 เป็นสิ่งสำคัญ Robinhood เอาใจใส่ลูกค้าตลอดเวลา เพื่อสร้างสัมผัสประสบการณ์เชิงบวกผ่านแอปเทรด
  5. ท้าทายตัวเองและสิ่งใหม่ บริษัทเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอยู่เสมอ

 

โอกาสการลงทุน

  1. ความต้องการประสบการณ์ใหม่ของลูกค้า เหมือนกับการสั่งอาหารออนไลน์ผ่านแอปได้ง่าย ๆ ที่เราเพียงรอรับหน้าบ้าน ผ่านเทคโนโลยีที่เข้ามา Disrupt การใช้ชีวิตของมนุษย์ การเทรดสินทรัพย์รูปแบบต่าง ๆ ก็เช่นกัน ที่สามารถสร้างความง่าย ความสะดวก เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบ Real-time โดยกลุ่ม Millennial มีการใช้เทคโนโลยีทางการเงินแทนการใช้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม
  2. การเพิ่มขึ้นของนักลงทุน ภายในปี 2018 มีอัตรานักลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 59% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennial อายุระหว่าง 18-34 ปี จึงมีโอกาสเจาะกลุ่มตลาดได้อีกมาก
  3. การเติบโตของตลาดเงินและ FinTech ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยของ S&P 500 อยู่ที่ 13% และปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หรือ 20%

 

เห็นแล้วใช่ไหมละว่า Robinhood แอปเทรดออนไลน์นี้จะไปได้ไกลอีกมาก ด้วยโอกาสที่หนุนให้บริษัทเติบโต การ Disrupt ของอุตสาหกรรม FinTech ที่กำลังมาแทนที่ธุรกรรมทางการเงินรูปแบบเดิม การหากลุ่มลูกค้าที่ยังคงหาได้อีกมาก รวมถึงการก้าวข้ามฟรีค่าธรรมเนียมที่ต่อไปนี้อาจจะมีแอปเทรดหุ้นที่หลากหลาย เริ่มให้ฟรีค่าธรรมเนียมเพื่อให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างแท้จริง !

 

Source : Investopedia, Robinhood, Bloomberg (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ส.ค. 2564)