Why Thai Bank reduce deposit protection from 5 MTHB to 1 MTHB l Robowealth Money EP.1

Why Thai Bank reduce deposit protection from 5 MTHB to 1 MTHB l Robowealth Money EP.1

Robowealth Money EP.1 วันนี้มาชวนคุยกันในหัวข้อเรื่องการลดความคุ้มครองเงินฝาก จะมีใครได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้บ้าง ?? . ตามที่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DPA) จะปรับลดการคุ้มครองเงินฝากที่ผู้ฝากแต่ละรายมีอยู่ในสถาบันการเงิน (สง.) แต่ละแห่งเหลือ 1 ล้านบาท โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไปนั้น อาจเป็นข่าวที่ทำให้หลายคนได้ยินข่าวนี้ตื่นตระหนก ตกใจกันไม่มากก็น้อย โพสต์นี้จะเป็นโพสต์สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ถึงที่มาที่ไป และผลกระทบต่อนักลงทุนอย่างเรา ๆ . ขอเริ่มที่ การคุ้มครองเงินฝากคืออะไร? . พูดง่าย ๆ ว่า คือกฏหมายที่ทำให้ประชาชนมั่นใจที่จะฝากเงินกับธนาคาร หรือสถาบันการเงินนั่นเอง . การคุ้มครองนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อเราฝากเงินกับสถาบันการเงิน โดยไม่ต้องลงทะเบียนอะไร และหากธนาคารหรือสถาบันการเงินปิดกิจการ เราก็จะได้รับเงินฝากของเราคืน . ลองมายกตัวอย่างกันให้เห็นภาพกันสักหน่อย ว่าถ้าสถาบันการเงินปิดกิจการลง เราจะได้รับการคุ้มครองเงินฝากยังไงบ้าง . สมมติว่า เรามีเงินฝาก 10 ล้าน แยกฝากอยู่ใน 2 ธนาคาร . – ในธนาคาร […]

Robowealth Money EP.1 วันนี้มาชวนคุยกันในหัวข้อเรื่องการลดความคุ้มครองเงินฝาก จะมีใครได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้บ้าง ??
.
ตามที่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DPA) จะปรับลดการคุ้มครองเงินฝากที่ผู้ฝากแต่ละรายมีอยู่ในสถาบันการเงิน (สง.) แต่ละแห่งเหลือ 1 ล้านบาท โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไปนั้น อาจเป็นข่าวที่ทำให้หลายคนได้ยินข่าวนี้ตื่นตระหนก ตกใจกันไม่มากก็น้อย โพสต์นี้จะเป็นโพสต์สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ถึงที่มาที่ไป และผลกระทบต่อนักลงทุนอย่างเรา ๆ
.
ขอเริ่มที่ การคุ้มครองเงินฝากคืออะไร?
.
พูดง่าย ๆ ว่า คือกฏหมายที่ทำให้ประชาชนมั่นใจที่จะฝากเงินกับธนาคาร หรือสถาบันการเงินนั่นเอง
.
การคุ้มครองนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อเราฝากเงินกับสถาบันการเงิน โดยไม่ต้องลงทะเบียนอะไร และหากธนาคารหรือสถาบันการเงินปิดกิจการ เราก็จะได้รับเงินฝากของเราคืน
.
ลองมายกตัวอย่างกันให้เห็นภาพกันสักหน่อย ว่าถ้าสถาบันการเงินปิดกิจการลง เราจะได้รับการคุ้มครองเงินฝากยังไงบ้าง
.
สมมติว่า เรามีเงินฝาก 10 ล้าน แยกฝากอยู่ใน 2 ธนาคาร
.
– ในธนาคาร A มีเงินฝาก 5 ล้านบาท
– ในธนาคาร B มีเงินฝาก 5 ล้านบาท
.
รวมเงินทั้งหมด 10 ล้านบาท
.
ก่อนหน้านี้ธนาคารทั้ง 2 จะคุ้มครองเงินฝากให้เราธนาคารละ 5 ล้านบาท รวมเป็น 10 ล้านบาท เราได้คุ้มครองเงินของเราเต็มจำนวนทันที
.
แต่หลังจากเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ก็มีการปรับลดคุ้มครองเงินฝากเหลือธนาคารละ 1 ล้านบาท รวมแล้วจะคุ้มครองแค่ 2 ล้านบาทเท่านั้น
.
จากเคสที่กล่าวมา ถ้าหากธนาคารประกาศปิดกิจการ ล้มละลาย หรือโดนเพิกถอนใบอนุญาต จากที่เรามีเงิน 10 ล้านบาท จะได้เงินคืนกลับมาทันทีเพียงแค่ 2 ล้านบาทเท่านั้น
.
เลยอาจทำให้หลายคนที่มีเงินฝากในธนาคารที่ถึงเกณฑ์คุ้มครองเงินฝาก ก็รู้สึกเป็นกังวลใจว่าที่มีการลดความคุ้มครองนั้น สาเหตุเป็นเพราะอะไร
.
ที่สงสัยสุด ๆ เลยคือ เพราะสถาบันการเงินในประเทศไทยกำลังจะล่มสลายหรือเปล่า??
.
คำตอบก็คือ การลดความคุ้มครองในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าธนาคารในประเทศไทยจะล่มสลาย หรือเสี่ยงปิดกิจการแต่อย่างใด เพราะธนาคารในประเทศไทยยังมีสภาพคล่องในระดับสูงอยู่ และอีกอย่างคือ หลาย ๆ ประเทศไม่ได้มีการคุ้มครองเงินฝากเหมือนอย่างประเทศไทยด้วยซ้ำไป
.
แล้วเมื่อการคุ้มครองเงินฝากลดลงแบบนี้ เราจะทำยังไงกับเงินฝากดีล่ะ?
.
สำหรับ ชาว Robowealth ที่มีเงินฝากในธนาคารไม่ถึง 1 ล้านก็สบายใจได้ คุณจะยังได้รับความคุ้มครองเต็มทั้งหมดเหมือนเดิม
.
แต่สำหรับหลาย ๆ คนที่มีเงินฝากในธนาคารเกิน 1 ล้านบาท สามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้
.
1. แยกเงินฝากไม่ให้เกิน 1 ล้านบาทไว้หลาย ๆ ธนาคาร โดยต่อ 1 ธนาคาร โดยยอดเงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะไม่ว่าเราจะฝากเงินไว้เท่าไหร่ก็ตาม จะคุ้มครองเพียงแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น
.
แต่ ๆ ๆ ในเหตุการณ์นี้เราไม่จำเป็นที่จะต้องกระจายเงินฝากไปหลายธนาคารก็ได้ เพราะมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ Robowealth จะแนะนำนั่นก็คือ
.
2 เก็บเงินในธนาคารเท่าที่ยอดเงินฝากคุ้มครอง คือไม่เกิน 1 ล้านบาท แล้วนำส่วนที่เกินมาไปลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ กองทุนรวม หุ้น หรืออื่น ๆ
.
ซึ่งโดยปกติ เราไม่ควรจะนำเงินของเราไปฝากในธนาคารทั้งหมดอยู่แล้ว เนื่องจากการฝากเงินในธนาคารจะได้ดอกเบี้ยประมาณ 0.5 – 1.75% ต่อปี (แล้วแต่รูปแบบการฝากเงินและแล้วแต่ธนาคาร) ซึ่งดอกเบี้ยที่ว่านั้นไม่ทันกับเงินเฟ้อที่อัตราเฉลี่ยของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี ซึ่งหมายความง่าย ๆ ว่า แค่เราฝากเงินไว้กับธนาคารเฉยๆ เราก็ขาดทุนทุกปีแล้ว
.
ดังนั้น นักลงทุนส่วนมาก จึงฝากเงินไว้กับธนาคารเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น แล้วนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ โดยถ้าเป็นกองทุนรวมก็จะมีผลตอบแทนที่คาดหวัง 4-12% ต่อปี แล้วแต่ความเสี่ยงที่รับได้ ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้
.
กองทุนมีให้เลือกเยอะมาก แบบไหนถึงจะดีและเหมาะสำหรับเรา ?
.
ให้คิดเสมอว่ากองทุนจะต้องเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ และความเสี่ยงระดับไหนที่เรายอมรับได้
.
ยิ่งความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนที่คาดหวังก็จะยิ่งมาก และหากจะเลือกซื้อกองทุนหรือลงทุน ที่จะให้เงินเก็บของเรางอกเงยนั้น แน่นอนว่าเราต้องศึกษานโยบายและเงื่อนไขของกองทุนให้รอบคอบก่อน ถึงจะได้ต่อยอดเงินเก็บของเราได้อย่างสบายใจ
.
การบริหารเงินออมของเราก็เปรียบเสมือนว่าเรากำลังลงทุนอยู่ แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกฝากเงินอย่างระมัดระวังแค่ไหน แล้วจะสามารถทำให้เงินเก็บของเราจะถูกเก็บอย่างดีและสามารถงอกเงยขึ้นมาจากเดิมได้
.
ใครอยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคการลงทุนแบบนี้อีก ก็กดติดตามได้เลยที่
Facebook : www.facebook.com/Robowealth

Website : bit.ly/RBfb2webblog
.
.
#Robowealth ผู้นำด้าน FinTech